พื้นที่อยู่ติดกับลำน้ำสาขาของแม่น้ำโขงที่ จ.บึงกาฬ ได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นจนล้นตลิ่ง ท่วมไร่นาแปลงเกษตรเสียหายกว่า 100 ไร่มาแล้ว 4 วัน ขณะที่ ยังเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ เพราะทางการลาว มีประกาศปล่อยน้ำจากเขื่อน คาดทำให้แม่น้ำโขงสูงขึ้นอีก

เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 8 ส.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระดับน้ำโขงที่เพิ่มสูงขึ้นได้เอ่อหนุนลำน้ำสาขา ไหลย้อนกลับเข้าลำห้วยผาคาง ที่เชื่อมต่อกับแม่น้ำโขง ในพื้นที่บ้านดอนยม หมู่ที่ 2 บ้านโนนแพง หมู่ที่ 9 บ้านคำหมื่น หมู่ที่ 7 บ้านคำแสน หมู่ที่ 10 ตำบลไคสี บ้านหนองแวง หมู่ที่ 3 ตำบลวิศิษฐ์ อำเภอเมืองบึงกาฬ ทำให้พื้นที่การเกษตร ทั้งนาข้าว สวนยางพารา สวนปาล์มน้ำมัน ถูกน้ำท่วมหลาย 100 ไร่

...

ส่วนบ่อเลี้ยงปลาของชาวบ้านได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะในพื้นที่ลุ่มต่ำติดลำห้วย เช่น แปลงเกษตรบ้านสวนริมทาง ของ น.ส.สกุลนิจ เมฆมล อายุ 48 ปี อยู่บ้านเลขที่ 136 ม.9 บ้านโนนแพง ทำเกษตรผสมผสานบนเนื้อที่ 7 ไร่กว่า ถูกน้ำโขงหนุนไหลเข้าหนองกุดจับ ล้นเข้าลำห้วยก้านเหลือง ท่วมพื้นที่ทั้งหมด ทั้งนาข้าว พืชผัก ถูกน้ำท่วมจมมิด รวมทั้งบ่อเลี้ยงปลา 2 บ่อ ที่เลี้ยงปลาบึก ปลานิล ปลากดคัง ที่กำลังโต หลายพันตัวหายไปกับสายน้ำ ความเสียหายไม่ต่ำกว่า 20,000 บาท 

ส่วนที่จุดวัดระดับน้ำในแม่น้ำโขง บ้านพันลำ ม.2 ต.วิศิษฐ์ อ.เมืองบึงกาฬ เช้านี้วัดระดับได้ 11.15 เมตร ลดลงจากวานนี้ 5 ซม. ต่ำกว่าตลิ่ง 2.85 เมตร (ตลิ่ง 14 เมตร) เศษขอนไม้ เศษขยะ เศษวัชพืช ที่ไหลมากับสายน้ำมีปริมาณลดลงแล้ว แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังระดับน้ำโขงอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานและบ่อแร่ ของ สปป.ลาว ได้ออกหนังสือถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงวันที่ 5 ส.ค. 2567 ว่า เพื่อความปลอดภัยของเขื่อนพลังงานไฟฟ้า และการบริหารจัดการน้ำในอ่างเก็บน้ำ เพื่อความปลอดภัยของโครงการ จึงปล่อยน้ำจากเขื่อนผลิตไฟฟ้าน้ำคาน 2 และ 3 ตั้งอยู่ในเมืองเชียงเงิน ห่างจากตัวเมืองหลวงพระบาง ไปทางทิศใต้ ซึ่งคาดว่าส่งผลให้ระดับน้ำในแม่น้ำโขงสูงขึ้นอีกภายใน 1-2 สัปดาห์นี้.