เขื่อนมูลบนโคราช เผยแผนบริหารน้ำเพื่อการเพาะปลูก ข้าวนาปีที่กำลังจะมาถึงในช่วง ก.ค. 67 นี้ โดยปริมาณน้ำกักเก็บเหลืออยู่ไม่ถึง 40% ต่ำกว่าปีก่อนในช่วงเดียวกัน 10% เพราะสภาพอากาศที่ร้อนและแล้งจัด แต่ทางเขื่อนมั่นใจว่าจะมีน้ำเพียงพอให้จัดสรรในทุกภาคส่วนจนถึงแล้งปีหน้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (20 มิ.ย. 2567) ที่โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษามูลบน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา นายพีรวัฒน์ ธีระวัฒนา นายอำเภอครบุรี เป็นประธานในการประชุมคณะกรรมการจัดการน้ำ (JMC) เขื่อนมูลบน ซึ่งเป็น 1 ใน 4 เขื่อนหลักของจังหวัดนครราชสีมา เพื่อวางแผนการจัดการน้ำในช่วงฤดูการเพาะปลูกข้าวนาปีที่กำลังจะมาถึงในช่วงเดือนกรกฎาคมนี้
โดยล่าสุดปริมาณน้ำภายในเขื่อนมูลบนเหลืออยู่ที่ประมาณ 55 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือคิดเป็นร้อยละ 39 จากความจุทั้งหมดที่ 141 ล้านลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นปริมาณน้ำต่ำกว่าช่วงเดียวกันของปีที่แล้วเกือบ 10 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนและแล้งจัดในช่วงก่อนหน้านี้
...
ในปี 2567 นี้ทางเขื่อนมูลบนมีแผนการส่งน้ำในกิจกรรมทุกประเภทในช่วงหน้าฝนระหว่างเดือนกรกฎาคม-ตุลาคม 2567 ประมาณ 57 ล้านลูกบาศก์เมตร แบ่งเป็นกิจกรรมที่ใช้ในการเกษตร โดยเฉพาะการเพาะปลูกข้าวนาปีที่มีพื้นที่การเพาะปลูกประมาณ 45,700 ไร่ ประมาณ 35 ล้านลูกบาศก์เมตร และใช้ในกิจกรรมนอกการเกษตร ทั้งการรักษาระบบนิเวศ การอุปโภคบริโภค และการอุตสาหกรรมที่มีโรงงานขนาดใหญ่ในพื้นที่ 4 แห่ง อีกประมาณ 22 ลูกบาศก์เมตร
แม้ว่าปริมาณน้ำในปัจจุบันจะสามารถใช้การได้จริงเพียง 48 ล้านลูกบาศก์เมตร เนื่องจากคาดการณ์ปริมาณฝนจากค่าเฉลี่ยที่จะมีปริมาณฝนตกเข้ามาในพื้นที่ตามปกติ ประกอบกับทางกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าปีนี้จะมีปริมาณฝนตกมากกว่าปีที่ผ่านมาจากค่าเฉลี่ยจากผลกระทบของสถานการณ์ลานีญา คาดว่าทำให้จะมีปริมาณน้ำที่จะสามารถนำมาบริหารจัดการในช่วงฤดูฝนร่วมด้วย และประเมินว่าจะมีปริมาณน้ำที่เหลือจากการบริหารจัดการน้ำหลังจากสิ้นสุดฤดูฝนภายในเขื่อนประมาณ 60 ล้านลูกบาศก์เมตรขึ้นไป
ทางเขื่อนมั่นใจว่าจะมีน้ำเพียงพอให้จัดสรรในทุกภาคส่วนทั้งในปีนี้ไปจนถึงในฤดูแล้งหน้าอย่างแน่นอน โดยเฉพาะในกรณีที่ลานีญาส่งผลต่อประเทศไทย โดยในที่ประชุมได้มีมติเริ่มส่งน้ำตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค. ถึงวันที่ 31 ก.ค. 67 ซึ่งทางกลุ่มผู้ใช้น้ำจะได้ช่วยกันทำความสะอาดและปรับปรุงคลองชลประทานเพื่อรอรับน้ำเริ่มต้นฤดูกาลเพาะปลูกไว้ก่อนในช่วงนี้.