ชาวบ้านเฮลั่น! ทีมผู้ช่วยรัฐมนตรีเกษตรฯ เยี่ยมชมการส่งเสริมการเลี้ยงชันโรง อ.สะเดา จ.สงขลา และรับฟังปัญหากลุ่มเลี้ยงปลาบ้านม่วงก็อง ต.พังลา หลังหน้าแล้งคลองอู่ตะเภาตื้นเขิน มีตะกอนดินจำนวนมาก ทำปลาตาย ส่งเรื่องให้ รมว.ธรรมนัส สั่งการช่วยเหลือ
เมื่อเร็วๆ นี้ นางจอมขวัญ กลับบ้านเกาะ ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมกับ นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ ประธานคณะอนุกรรมการติดตามงานด้านกิจการเกษตร จ.สงขลา นายสมควร ทองสุกใส ที่ปรึกษารัฐมนตรี นายปัทพงศ์ สารบรรณ์ เกษตรจังหวัด และคณะลงพื้นที่ติดตามกลุ่มวิสหกิจชุมชนกลุ่มคน เลี้ยงชันโรง (อุง) บ้านหัวถนน ต.ปริก อ.สะเดา โดยมี นายวิเชษต์ สายกี้เส้ง นายอำเภอสะเดา และนางสุคนธ์ ปัจฉิมศิริ ประธานกลุ่มวิสาหกิจผู้เลี้ยงชันโรง บ้านหัวถนน และสมาชิกให้การต้อนรับ


...
กลุ่มวิสาหกิจผู้เลี้ยงชันโรง บ้านหัวถนน มีสมาชิก 250 ราย นิยมเลี้ยงกันอย่างกว้างขวางในหลายชุมชนของอำเภอสะเดา เกษตรกรเลี้ยงในสวนยางพารา สวนผลไม้ทุกประเภท ส่งผลให้สวนผลไม้มีผลผลิตเพิ่มขึ้นร้อยละ 30-40 จากการช่วยผสมเกสรของผึ้งชันโรง สามารถผลิตน้ำผึ้งชันโรงได้กว่า 6,000,000 ซีซี และสามารถแปรรูปจากน้ำผึ้ง และขี้ชันที่ได้จากการเลี้ยงชันโรง มีคุณสมบัติดีกว่าน้ำผึ้งทั่วไป เป็นผึ้งขนาดตัวเล็ก สามารถไปหาน้ำหวานจากการเกษรจากต้นไม้นานาชนิด ตั้งแต่ดอกเล็กถึงดอกใหญ่ มาผลิตเป็นสินค้าชุมชน เช่น น้ำผึ้งบำรุงสุขภาพ สบู่ เครื่องสำอาง น้ำยาอเนกประสงค์ น้ำยาระงับกลิ่นเท้า และเครื่องดื่มบำรุงร่างกาย ปัจจุบันน้ำผึ้งชันโรง เป็นที่ต้องการของตลาดต่างประเทศ เช่น ประเทศจีน และประเทศยุโรป มีการออเดอร์มาอย่างต่อเนื่อง และอนาคตมีลู่ทางสดใส


จากนั้น คณะผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ ได้เดินทางต่อไปลงพื้นที่บ้านม่วงก็อง หมู่ 7 ต.พังลา อ.สะเดา จ.สงขลา รับฟังปัญหาจากกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังบ้านม่วงก็อง โดยมีสมาชิกและชาวบ้านให้การต้อนรับ กลุ่มผู้เลี้ยงปลาบ้านม่วงก็อง อ.สะเดา มีสมาชิก 24 ราย จำนวน 109 กระชัง หากรวมเกษตรของอำเภอคลองหอยโข่งที่เลี้ยงปลาในกระชังในคลองอู่ตะเภา จำนวน 1,982 คน ต่างได้รับความเดือดร้อนปัญหาเรื่องไม่มีน้ำเลี้ยงปลา น้ำร้อนอุณหภูมิสูง ขาดอ็อกซิเจนในหน้าแล้ง ปลาตายเป็นจำนวนมาก สาเหตุจากคลองตื้นเขินในคลองมีเกาะกลางลำน้ำ และมีตะกอนดินเป็นจำนวนมาก เมื่อถึงหน้าร้อนเกษตรกรต้องงดการเลี้ยงปลา ส่งผลให้รายได้ของครอบครัวลดลงไม่ต่อเนื่อง

หลังจาก คณะผู้ช่วยรัฐมนตรีฯ ได้รับงานความเดือดร้อนกลุ่มผู้เลี้ยงปลาน้ำจืดบ้านม่วงก็องแล้วได้รายงานไปยัง นายธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรฯ และได้สั่งการอย่างเร่งด่วนให้ นายการุณ แปลงรัตน์ ผอ.สำนักชลประทานที่ 16 ตั้งอยู่ที่อำเภอหาดใหญ่ ดำเนินการออกแบบขุดลอกและเคลื่อนย้ายตะกอนภายในคลองอู่ตะเภาให้มีความลึกประมาณ 2 เมตร จากระดับปัจจุบัน รวมทั้งได้รับการประสานจากวิทยาลัยเทคนิคหาดใหญ่ในการออกแบบสร้างฝายชะลอน้ำเพื่อรักษาระดับน้ำในหน้าแล้งให้เกษตรกรสามารถเลี้ยงปลาได้อย่างต่อเนื่องไม่ขาดตอน ทำให้ชาวบ้านได้เฮที่ได้รับข่าวดีจาก รมว.เกษตรฯ ท่ามกลางความดีใจของสมาชิกกลุ่มเลี้ยงปลาและประชาชนที่มาต้อนรับ
...

สำหรับ คลองอู่ตะเภา ต้นกำเนิดมาจาก เขื่อนคลองสะเดา ไหลผ่านอำเภอสะเดา และอำเภอคลองหอยโข่ง มีการเลี้ยงปลาน้ำจืดในกระชังหลายพื้นที่ โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงปลาในกระชังในพื้นที่บ้านม่วงก็องได้ทำการเลี้ยงปลามานานกว่า 40 ปี ปลาที่เลี้ยงส่วนใหญ่ ได้แก่ ปลากะพงน้ำจืด ปลากดเหลือง ปลานิล ปลาดุก และปลาสวาย สามารถผลิตปลาสดออกสู่ท้องตลาด และสินค้าผลิตภัณฑ์แปรรูป เช่น ปลาส้ม ที่มีรสชาติอร่อยไม่เหมือนใคร โดยใช้น้ำตาลโตนดมาเป็นส่วนผสม รสชาติกลมกล่อมหวานอมเปรี้ยว ส่งออกขายเป็น OTOP ของจังหวัดสงขลา ได้รับความนิยมในท้องตลาดอย่างมาก ที่ผ่านมาได้ประสบปัญหาการเลี้ยงไม่เต็มที่ ต้องยุติการเลี้ยงปลาในหน้าแล้ง ทำให้เกษตรกรมีรายได้ไม่ต่อเนื่อง วันนี้ทาง กระทรวงเกษตรฯ และเกษตรจังหวัดสงขลาได้เข้ามาช่วยเหลือแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน ยกระดับเกษตรกรกลุ่มเลี้ยงปลาในกระชังบ้านม่วงก็อง อ.สะเดา และ อ.คลองหอยโข่ง ได้อย่างยั่งยืน.

...
