ความคืบหน้า กรณีเขื่อนป้องกันน้ำหน้าวัดเชิงเลน จ.นนทบุรี ที่พังทลายลงแม่น้ำเจ้าพระยา ล่าสุด รมว.เกษตรฯ ลงพื้นที่ตรวจด้วยตัวเอง หลังรายงานต่อนายกฯ ระบุ ยังไม่โทษใคร แต่ให้ปลัด ก.เกษตรฯ ตั้ง คกก.สอบฯ สาเหตุตามขั้นตอน โดยกำชับกรมชลประทานเร่งแก้ไขให้เร็วที่สุด

เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 10 มิ.ย. 2567 ที่วัดเชิงเลน ต.ท่าอิฐ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายสุริยพล นุชอนงค์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เดินทางมาตรวจสอบเขื่อนป้องกันน้ำยาว 2.2 กิโลเมตร ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ที่ตรงหน้าวัดที่พังทลายลงแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อหาสาเหตุที่เกิดขึ้น

รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า จากการดูแบบก่อสร้างพบว่าเป็นเขื่อนป้องกันตลิ่งมีเสาเข็ม 3 ตับ โดยด้านหน้าทิ้งหินเพื่อต้านแรงดันจากด้านใน ที่จะทำให้เกิดผลกระทบกับกำแพง ประกอบกับสภาพพื้นที่เป็นสามแยกคุ้งน้ำ คาดว่าเกิดจากการพัดของกระแสน้ำทำให้หินด้านหน้าเกิดการเคลื่อนตัวหรือหายไป ทำให้เกิดการเล็ดลอดของดินจากทางด้านใน เท่าที่เห็นมีสภาพดินเกิดการทรุดตัว ประกอบกับทางวัดได้นำดินมาถมเพิ่มเติมทำให้โครงสร้างเซก่อนทรุดพังลงไป

...

ทางบริษัทผู้รับจ้างยินดีที่จะเข้ามาดำเนินการซ่อมแซมให้กลับเป็นเหมือนเดิมในสภาพปกติ เบื้องต้นดูจากสภาพพื้นที่ยังไม่ได้ให้ จนท.ธรณีวิทยามาเจาะตรวจสอบ คงจะเกิดจากกระแสน้ำที่พัดหินหายไป เขื่อนนี้เมื่อก่อสร้างเสร็จ มีการตรวจสอบและเช็กสภาพของเขื่อน เช่น หากมีการทรุดตัวของดินหรือหินที่วางไว้ หากเกิดหายไปหรือเกิดอะไรก็ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ หรือหน่วยงานที่ดูแลการก่อสร้าง ที่เราออกแบบทิ้งหินไว้ด้านหน้าเพื่อป้องกันการกัดเซาะของลำน้ำที่เชี่ยวเป็นคุ้งน้ำ ตลอดแนวจึงได้ทิ้งหินไว้ หลังจากนี้ทางบริษัทผู้รับจ้างจะเริ่มดำเนินการนำเสาเข็มเข้ามาซ่อมแซมให้เร็วที่สุด ก่อนที่น้ำจะหลากมา

ต่อมาเวลา 15.00 น. ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เดินทางมาที่วัดเชิงเลน หลังทราบเรื่อง โดยรองอธิบดีกรมชลประทานได้ชี้แจงถึงสาเหตุที่ทำให้เขื่อนพัง 

ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า แนวเขื่อนถูกน้ำแม่น้ำเจ้าพระยาซัดพังยาวประมาณ 75 เมตร เบื้องต้นที่จะต้องแก้ไขคือ ให้กรมชลประทานสั่งเหล็กชีทไพล์ขนาด 4x20 นำมาตอกตรงนี้ก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้กระแสน้ำพัดเข้ามาอีก ส่วนบริษัทที่รับผิดชอบต้องรีบลงแก้ไขปัญหาโดยด่วน ส่วนฝั่งตรงข้ามเขาใช้ระบบชีทไพล์ ซึ่งจะมีความแข็งแรงและจะให้ทางกรมชลประทานดำเนินการแก้ไขโดยด่วน ภายในวันพรุ่งนี้ต้องเริ่มดำเนินการเลย ส่วนโครงการทราบว่าใช้งบประมาณก่อสร้างกว่า 400 ล้านบาท ในเรื่องนี้จะขอตรวจสอบก่อน เพราะเป็นการจัดซื้อจัดจ้างก่อนที่ตนจะมารับตำแหน่ง เรื่องที่เกิดขึ้นนี้ต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนอยู่แล้ว จะปล่อยเลยไม่ได้

รมว.เกษตรฯ กล่าวด้วยว่า เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งตนได้รายงานท่านนายกรัฐมนตรี รับทราบแล้วว่าจะมาลงพื้นที่ จะได้เห็นกับตาได้ยินกับหู สิ่งที่เกิดขึ้น ณ เวลานี้ตนยังไม่โทษใคร จะให้ทางปลัดกระทรวงตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนหาสาเหตุที่เกิดขึ้นและจะให้ทางกรมชลประทานเร่งสั่งชิบพายเอามาตอก หากปล่อยไว้แบบนี้น้ำจะไหลเข้าไปในวัดและบ้านเรือนประชาชน โดยประชาชนและชาวบ้านในพื้นที่ไม่ต้องกังวล จะเข้ามาดำเนินการแก้ไขให้เร็วที่สุด.