ดีเอสไอหารือคณะทำงานหมูเถื่อน-ตีนไก่สวมสิทธิ จ่อเชิญ ขรก.ระดับสูงเข้าให้ข้อมูล กรณี 10,000 ตู้นำเข้าปี 64 ขณะที่ รรท.อธิบดีฯ ยัน ให้ประกันเฮียเก้าชั่วคราว 2 แสน พร้อมจ่อเชิญรองอธิบดีกรมปศุสัตว์ให้ข้อมูลในฐานะพยาน ยังไม่เรียกอธิบดีฯ

เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 23 ม.ค.2567 พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รรท.อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน นัดหมายพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อนและคดีตีนไก่สวมสิทธิ เข้าร่วมประชุมหารือ ติดตามความคืบหน้าทางคดีและการรวบรวมพยานหลักฐาน

พ.ต.ต.ณฐพล กล่าวภายหลังการประชุมว่า จากกรณีที่ถึงกรณีที่ นายหลี เซิ่งเจียว หรือ เฮียเก้า ได้เข้ามอบตัวเกี่ยวกับกรณีที่ได้มีคดีพิเศษ 126/2566 กรณีขบวนการนำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์ โดยมิชอบ และนำออกไปจำหน่ายจำนวน 2,388 ตู้ และคดีพิเศษ 127/2566 กรณีนำเข้าสินค้าประเภทซากสัตว์ จำนวนกว่า 10,000 ตู้ ซึ่งโดนแจ้งข้อหา พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ. 2560, พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ. 2558, ความผิดฐานอั้งยี่ซ่องโจร และข้อหาร่วมกันฟอกเงิน กับพวกรวม 5 ราย

หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน กล่าวต่อว่า ที่ประชุมมีมติเชิญหมอและสัตวแพทย์ที่ประจำเเต่ละโรงงานที่ส่งออกไปประเทศจีนมาให้ปากคำเพิ่มเติม ถึงการออกใบอนุญาตส่งออก เเละจะมีการเชิญข้าราชการจากกรมปศุสัตว์ที่รับผิดชอบการส่งออกไก่ไปประเทศจีน ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะได้ข้อสรุป อีกทั้งยังขยายผลการนำเข้าหมูเถื่อนในกลุ่มคดี 126/2566 จำนวน 2,388 ตู้นั้นว่าเป็นอย่างไรในใบเขียนรายละเอียดว่าเป็นสินค้าประเภทเเช่เเข็งทั้งหมด แต่เมื่อเปิดออกมาพบเป็นชิ้นส่วนเนื้อสุกร อีกทั้งทางกรมศุลการกรได้ส่ง ตู้หมู 16 ตู้เเละเนื้อไก่หรือวัวอีก 74 ตู้ พิจารณาซึ่งเป็นชุดใหม่

...

"ในส่วนของเฮียเก้า ที่เป็นญาติกับพี่ชายของอดีตรัฐมนตรีนั้น ทางเฮียเก้าเคยเดินทางมาประเทศไทยเมื่อ 28 ปีที่เเล้ว เพื่อมาตามหาญาติของทำงานเพราะพ่อของตนมีญาติอยู่ที่ประเทศไทย จนตนเองออกมาทำธุรกิจ ส่วนนายกรินทร์ ปิยพรไพบูลย์ หรือมิกซ์ บุตรชายนั้น แท้จริงแล้วเป็นบุตรชายบุญธรรม ซึ่งเดินทางออกไปนอกประเทศก่อนวันที่ 30 ธ.ค.2566 ทางเฮียเก้ายืนยันจะประสานให้รีบมามอบตัว ส่วนกรณีภาพถ่ายที่เฮียเก้าถ่ายคู่นักการเมืองชั้นสูงหลายท่านนั้น จะมีการมาให้ข้อเท็จจริงภายหลัง" พ.ต.ต.ณฐพล กล่าว

หัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีหมูเถื่อน กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีของสองสามีภรรยา นายหยาง ยา ซุง และ น.ส.นวพร เชาว์วัย ผู้ต้องหาในคดีหมายจับเดียวกัน ซึ่งดีเอสไอได้จับกุมไปก่อนหน้าแล้วนั้น เฮียเก้ายืนยันว่าไม่รู้จัก แต่มีบางส่วนที่เฮียเก้าให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดีอยู่ เช่น มีการเปิดเผยรายชื่อของบุคคลที่เกี่ยวข้องในขบวนการขายส่งตีนไก่ไปยังประเทศจีนเพิ่มเติม หรือมีขั้นตอนการติดต่อประสานงานกันอย่างไร ความเกี่ยวข้องกับกลุ่มข้าราชการ กลุ่มบริษัทชิปปิ้งเอกชน แต่เราขอละเว้นการเปิดเผย เพราะต้องใช้ในการขยายผล ส่วนเรื่องสมาคมการค้าแลกเปลี่ยนเศรษฐกิจไทยเอเชีย (Thai - Asia Economic Exchange Trade Association) ซึ่งมีเฮียเก้าดำรงตำแหน่งเป็นนายกสมาคม เหตุใดรายชื่อที่ปรึกษาและกรรมการจึงมีแต่คนใหญ่คนโตในแวดวงทหาร นักการเมือง และตำรวจนั้น เฮียเก้าไม่ตอบคำถาม แต่จะขอกลับไปรวบรวมข้อมูลแล้วมาชี้แจงภายหลัง

ด้าน พ.ต.ต.ยุทธนา กล่าวว่า เบื้องต้นผู้ต้องหาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา แต่ยอมรับว่ารู้จักกับนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และข้าราชการในสังกัดในกระทรวงฯ โดยไม่ได้เปิดเผยว่ารู้จักหรือสนิทกับบุคคลเหล่านี้ระดับไหน ซึ่งเป็นสิทธิ์ของผู้ต้องหาที่จะให้ปากคำ การเข้าให้ปากคำของเฮียเก้า ซึ่งได้ติดต่อขอมอบตัวด้วยตัวเอง แสดงความบริสุทธิ์ต่อสู้ จึงได้รับสิทธิในการประกันตัวในชั้นสอบสวนในวงเงิน 200,000 บาท และได้รับการปล่อยตัวตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา แต่กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร และห้ามยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน

รรท.อธิบดีดีเอสไอ กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่จะขยายผลต่อจากคำให้การของเฮียเก้า โดยเฉพาะบุคคลที่ถูกพาดพิงถึงในกระทรวงเกษตรฯ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นคณะพนักงานสอบสวนอาจจะเชิญระดับรองอธิบดีกรมปศุสัตว์มาให้ปากคำในฐานะพยานก่อน ส่วนระยะเวลานัดหมายขึ้นอยู่กับดุลพินิจของพนักงานสอบสวน ส่วนกรณีของนายกรินทร์ ปิยพรไพบูลย์ ลูกชายของเฮียเก้า ผู้ต้องหาในคดีสวมสิทธิส่งออกตีนไก่ พนักงานสอบสวนยังไม่ได้รับการติดต่อขอเข้ามอบตัวแต่อย่างใด.

...