เทศบาลเมืองศิลา จ.ขอนแก่น รุก ไถกลบตอซัง พื้นที่เพาะปลูกทั้งตำบล หลังเปิดแคมเปญปีแรกเกษตรกรสมัครเข้าร่วมโครงการกว่า 2,000 ไร่ เล็งขยายพื้นที่ตำบลข้างเคียง มุ่งคืนอากาศที่บริสุทธิ์แก้ปัญหาฝุ่น PM 2.5 อย่างยั่งยืน
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 ม.ค. 2567 ที่บ้านศิลา ม.1 ริมถนนเลี่ยงเมืองสายขอนแก่น-กาฬสินธุ์ ต.ศิลา อ.เมือง จ.ขอนแก่น นายศิริวัฒน์ ศิริพานิขย์ รอง ผวจ.ขอนแก่น เป็นประธานเปิดโครงการเฝ้าระวังและป้องกันผลกระทบต่อสุขภาพจากมลพิษทางอากาศ ประจำปี 2567 ซึ่งเทศบาลเมืองศิลา ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนได้กำหนดจัดกิจกรรมขึ้น เพื่อรณรงค์ให้เกษตรกรในพื้นที่ไถกลบตอซัง และใช้น้ำจุลินทรีย์ พด.2 ย่อยสลายซังข้าวแทนการเผานาข้าวในพื้นที่ ท่ามกลางความสนใจจากเกษตรกรในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก


...
นายไพรัตน์ ทวีวาร นายกเทศมนตรีเมืองศิลา กล่าวว่า การไถกลบตอซังเป็นนโยบายที่รัฐบาลและจังหวัดเดินหน้ารณรงค์ให้เกษตรกรทุกพื้นที่นั้นดำเนินการอย่างต่อเนื่อง สำหรับพื้นที่ตำบลศิลา ขณะนี้ เข้าสู่ช่วงของการทำนาปรังหลังสิ้นสุดการเก็บเกี่ยวในช่วงนาปี ดังนั้นการรณรงค์ด้วยการประสานความร่วมมือร่วมระหว่างกำนัน, ผู้ใหญ่บ้าน, ผู้นำชุมชน, อสม. และเกษตรกร ให้หันมาให้ความสำคัญกับมลพิษ และมลภาวะที่จะเกิดขึ้นจากการเผา โดยเฉพาะปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 และปัญหาควันไฟที่ขณะนี้เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ดังนั้นวันนี้จึงเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ ที่คนศิลาจะร่วมมือกันไถกลบตอซังกันให้มากที่สุด โดยเทศบาลฯ ให้การสนับสนุนแบบบคนละครึ่ง


นายกเทศมนตรีเมืองศิลา กล่าวต่อว่า เราทำความเข้าใจกับเกษตรกร ซึ่งเดิมคาดการณ์ว่าเกษตรกรจะเข้าร่วมโครงการกับเทศบาลฯ ในปีนี้ประมาณ 1,000 ไร่ จากพื้นที่นาข้าวทั้งตำบล 8,000 ไร่ แต่เมื่อมีการเปิดรับสมัครเข้าร่วมโครงการพบว่ามีเกษตรกรให้ความสนใจสมัครเข้าร่วมโครงการกว่า 2,000 ไร่ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความตั้งใจจริงของคนศิลาที่จะร่วมด้วยช่วยกันแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก และปัญหามลพิษทางอากาศ เพราะศิลาเป็นเขตชุมชนติดเมือง ซึ่งหากไม่มีการเผาก็จะช่วยสร้างอากาศที่บริสุทธิ์ให้กับคนในชุมชนได้อย่างยั่งยืนอีกด้วย

นายไพรัตน์ กล่าวอีกว่า การสาธิตการไถกลบตอซังครั้งนี้ ดำเนินการตามขั้นตอนที่กรมพัฒนาที่ดินและเกษตรอำเภอกำหนด และเมื่อไถกลตอซังแล้วเสร็จก็จะมีการพ่นน้ำยา พด.2 ซึ่งจะไปย่อยสลายซังข้าวที่ถูกไถกลบไป และสร้างปุ๋ยและฟื้นฟูดินให้ดีขึ้น จากนั้นเมื่อเกษตรกรปล่อยน้ำเข้าที่นา และทำการไถอีกรอบเพื่อเตรียมแปลงก็จะสามารถทำนาปรังได้ทันที ขณะที่การให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนนั้นนอกจากน้ำยา พด.2 ที่เกษตรอำเภอนำมาแจกจ่ายให้กับเกษตรกรแล้ว เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับการสนับสนุนจากเทศบาลไร่ละ 100 บาท ซึ่งเดิมต้นทุนในการไถต่อไร่อยู่ที่ 200 บาท เมื่อเทศบาลสนับสนุนให้กับเกษตรไร่ละ 100 บาทเท่ากับว่าต้นทุนของเกษตรกรจะลดลงแบบคนละครึ่ง ซึ่งจะลดต้นทุนให้กับเกษตรกรได้อีกด้วย อย่างไรก็ตามเล็งประสานงานร่วมเทศบาลฯ ในพื้นที่ใกล้เคียง เพื่อร่วมกันรณรงค์ในการไถกลบตอซัง เพื่อสร้างอากาศที่บริสุทธิ์ให้กับชุมชนเมืองขอนแก่นได้อย่างยั่งยืนทุกฤดูกาลดำนา.
...