บรรยากาศที่หน้าสำนักงาน ธ.ก.ส.บึงกาฬ ประชาชนเริ่มนำสมุดบัญชีมาปรับยอดหลังได้รับเงินช่วยชาวนาไร่ละ 1,000 บาท โดยรอบแรก ธ.ก.ส.สาขา อ.เมืองบึงกาฬ โอนเข้าบัญชีแล้ว 3,484 ราย รวมกว่า 31 ล้านบาท ขณะที่ ส่วนที่เหลือจะจ่ายเข้าบัญชีวันที่ 30 พ.ย. 66
หลังจากนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กดปุ่ม Kick off ธ.ก.ส. โอนเงิน มาตรการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2566/67 ให้กับเกษตรกรผู้ปลูกข้าวงวดแรก ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบมาตรการให้เงินช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกข้าวไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 20 ไร่ต่อครัวเรือน หรือไม่เกินครัวเรือนละ 20,000 บาท ตามโครงการสนับสนุนค่าบริหารจัดการและพัฒนาคุณภาพผลผลิตเกษตรกรผู้ปลูกข้าว ปีการผลิต 2566/2567
เมื่อเวลา 08.30 น. วันที่ 28 พ.ย. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศเช้าวันนี้ที่ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มีประชาชนชาวบึงกาฬเริ่มทยอยเดินทางมาปรับสมุดบัญชีเงินฝาก และทำธุรกรรมทางการเงินแล้ว
นายศศิพงศ์ โพธิ์ศรี ผู้อำนวยการ ธ.ก.ส. อำเภอเมือง จ.บึงกาฬ กล่าวว่า การจ่ายเงินงวดแรกวันที่ 28 นี้ สาขาเมืองบึงกาฬจะโอนเงินเข้าบัญชีเกษตรกรจำนวน 3,484 ราย เป็นเงิน 31,112,072.50 บาท ส่วนที่เหลือจะมีการโอนเข้าบัญชีเกษตรกรในวันที่ 30 พ.ย. นี้ มีสาขาเซกา 8,137 ราย/ สาขาโซ่พิสัย 6,038 ราย/ สาขาบึงโขงหลง 2,087 ราย/ สาขาบุ่งคล้า 2,337 ราย/ สาขาปากคาด 2,708 ราย/ สาขาพรเจริญ 4,143 ราย/ สาขาศรีวิไล 4,023 ราย และสาขาหอคำ 1,760 ราย รวมทั้งสิ้น 34,717 ราย เป็นเงินรวม 332,438,070 บาท
...
ผู้อำนวยการ ธ.ก.ส.บึงกาฬ กล่าวอีกว่า เกษตรกรสามารถตรวจสอบวงเงินเข้าบัญชีได้ที่ ธ.ก.ส.ทุกสาขาที่ใกล้บ้าน และผ่านช่องทางออนไลน์ ที่เว็บไซต์ https://chongkho.inbaac.com และผ่านแอปพลิเคชัน ธ.ก.ส. A-Mobile สำหรับเกษตรกรที่ได้รับเงินสามารถ กดถอนผ่าน ATM ได้ทุกตู้บริการ ทั่วประเทศ สำหรับตู้ ATM ธ.ก.ส. ธ.กรุงไทย และ ธ.กรุงศรีฯ ฟรีค่าธรรมเนียมการถอนเงินผ่านตู้ ATM ในเขตพื้นที่เดียวกัน.