ผลประชุมประชาคมชาวประมงพื้นบ้านฯ จ.สมุทรสาคร ชาวประมงพื้นบ้าน ยืนกรานคงเขตห้ามคราดหอย ชี้ใช้เป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อน และเห็นด้วยกำหนดพื้นที่ประมงอวนลากฯ โดยเสนอเพิ่มข้อกำหนดอีก ก่อนให้ประมงจังหวัดพิจารณา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวจอมขวัญ กลับบ้านเกาะ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานเปิดเวทีการประชุมประชาคมชาวประมงพื้นบ้าน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในพื้นที่เขตทะเลชายฝั่งจังหวัดสมุทรสาคร ณ ห้องประชุมเทศบาลตำบลบางหญ้าแพรก อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร โดยมี นายสรวิชญ์ แซ่ลิ้ม นายก ทต.บางหญ้าแพรก ผู้แทนจากสำนักงานประมงจังหวัดสมุทรสาคร ผู้แทนด้านกฎหมายประมง ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลสมุทรปราการ สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งฯ ตลอดจนพี่น้องชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครเกือบ 200 คนเข้าร่วม
การประชุมประชาคมครั้งนี้ มีประเด็นที่ต้องพิจารณาเพื่อขอความเห็นชอบร่วมกัน 2 เรื่องใหญ่ๆ คือ เรื่องที่ 1 การขอยกเลิกประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ฉบับลงวันที่ 7 กันยายน 2553 เรื่องกำหนดเขตห้ามใช้เครื่องมือที่ใช้กับเรือยนต์ ทำการประมงหอยชนิดสองฝาในท้องที่จังหวัดสมุทรสาคร พ.ศ. 2553 กับ เรื่องที่ 2 การกำหนดพื้นที่ทำการประมงในเขตทะเลฝั่งจังหวัดสมุทรสาคร ด้วยเครื่องประมงประเภทอวนลากทุกชนิดที่ใช้ประกอบเรือกล ยกเว้นอวนลากแมงกะพรุนตามร่างประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่องกำหนดเครื่องมือทำการประมง วิธีการทำการประมงที่ห้ามใช้ทำการประมง และพื้นที่ทำการประมงในพื้นที่จับสัตว์น้ำในเขตทะเลชายฝั่ง พ.ศ......
...
นางสาวจอมขวัญ กล่าวว่า การประชุมประชาคมชาวประมงพื้นบ้าน และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเพื่อรับฟังความคิดเห็นในการทำการประมง จำนวน 2 เรื่องที่จัดขึ้นนี้ เนื่องด้วยการทำการประมงพื้นบ้าน หมายถึง การทำการประมงโดยใช้เรือขนาดต่ำกว่า 10 ตันกรอส มีขนาดเครื่องยนต์ไม่เกิน 280 แรงม้า ทำการประมงในเขตทะเลชายฝั่ง ชาวประมงอาศัยอยู่กันเป็นชุมชนหรือหมู่บ้านบริเวณริมฝั่งทะเล มีการปรับเปลี่ยนเครื่องมือทำการประมงและวิธีการทำการประมง เพื่อให้มีความสอดคล้องกับฤดูกาลหรือการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติ
กรรมการ ผช.รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวต่อว่า ปัจจุบันชาวประมงพื้นบ้านในจังหวัดสมุทรสาครทำการขึ้นทะเบียนเรือกับกรมเจ้าท่า และกรมประมงเพื่อประกอบอาชีพจำนวน 459 ลำ ส่วนใหญ่ใช้เครื่องมืออวนรุนเคย อวนลอยปลากระบอก อวนลอยปลากุเรา และอวนจมปู มีการขึ้นทะเบียนองค์กรชุมชนประมงท้องถิ่นกับกรมประมงด้านการประมงพื้นบ้าน จำนวน 20 องค์กร นอกจากการทำการประมงพื้นบ้านแล้ว ยังมีการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่ง ซึ่งอยู่ในเขตทะเลชายฝั่งจังหวัดสมุทรสาคร คือ การเพาะเลี้ยงหอยแมลงภู่แบบหลักไม้ไผ่ในที่อนุญาตซึ่งเป็นสาธารณะสมบัติของแผ่นดิน พื้นที่ได้รับอนุญาต 1,668.30 ไร่ ปีทำการประมง 2565-2566 มีเกษตรกรที่ขออนุญาตจำนวน 294 ราย แปลงเพาะเลี้ยงจำนวน 308 แปลง
นางสาวจอมขวัญ กล่าวอีกว่า สำหรับการประชุมที่จัดขึ้นนี้ เพื่อหาข้อสรุปใน 2 เรื่องดังกล่าวข้างต้นแล้วให้ทางสำนักงานประมงจังหวัดสมุทรสาครในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประมงประจำจังหวัดสมุทรสาคร ได้นำไปเสนอให้คณะกรรมการประมงประจำจังหวัดสมุทรสาครประชุมพิจารณาในวันที่ 18 ธันวาคม 2566 เพื่อออกประกาศให้มีผลบังคับใช้ตามอำนาจหน้าที่ต่อไป
...
ขณะที่ผลสรุปจากการประชุมประชาคมครั้งนี้ในเรื่องที่ 1 การขอยกเลิกประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ฉบับลงวันที่ 7 กันยายน 2553 เรื่องกำหนดเขตห้ามใช้เครื่องมือที่ใช้กับเรือยนต์ ทำการประมงหอยชนิดสองฝาในท้องที่จังหวัดสมุทรสาคร พ.ศ. 2553 กลุ่มชาวประมงยังคงยืนกรานที่จะให้คงไว้ดังเดิม ไม่มีการยกเลิกประกาศฯ เหตุด้วยพื้นที่เขตห้ามใช้เครื่องมือฯ ตามประกาศข้างต้นนี้ เป็นสิ่งที่ช่วยทำให้ทรัพยากรสัตว์น้ำโดยเฉพาะหอยลายมีความอุดมสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นพื้นที่อนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อนได้ด้วย หากยกเลิกประกาศ ก็จะส่งผลทำให้เรือประมงทั้งจากในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร และต่างพื้นที่เข้ามาทำกินคราดหอยกันมากขึ้น จนส่งผลทำให้เกิดการรุกรานที่อยู่อาศัย แหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำทางธรรมชาติ และการทำลายล้างสัตว์น้ำวัยบริบาล ซึ่งก็จะส่งผลกระทบต่อการทำอาชีพประมงชายฝั่งจังหวัดสมุทรสาครเป็นรุนแรง
ส่วนเรื่องที่ 2 การกำหนดพื้นที่ทำการประมงในเขตทะเลฝั่งจังหวัดสมุทรสาคร ด้วยเครื่องประมงประเภทอวนลากทุกชนิดที่ใช้ประกอบเรือกล ยกเว้นอวนลากแมงกะพรุนตามร่างประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่องกำหนดเครื่องมือทำการประมง วิธีการทำการประมงที่ห้ามใช้ทำการประมง และพื้นที่ทำการประมงในพื้นที่จับสัตว์น้ำในเขตทะเลชายฝั่ง พ.ศ...... นั้น ในที่ประชุมเห็นสมควรให้ดำเนินการตามร่างดังกล่าว แต่ทั้งนี้จะต้องมีข้อบังคับมากขึ้นเช่น ขนาดเรือและกำลังเครื่องยนต์ เป็นต้น โดยทั้งนี้ได้ขอให้มีการหารือกันนอกรอบอีกครั้ง แล้วสรุปผลให้กับสำนักงานประมงจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อนำไปเสนอให้คณะกรรมการประมงประจำจังหวัดสมุทรสาคร พิจารณาในวันที่ 18 ธันวาคมนี้ต่อไป.