
นายสนิท พรหมวงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางบก (ขบ.) เปิดเผยว่า กรมการขนส่งทางบกกำชับให้สำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ ตรวจสอบความปลอดภัย การให้บริการของรถโรงเรียนและรถรับส่งนักเรียนในจังหวัดอย่างเข้มงวด เตรียมพร้อมเปิดภาคการศึกษาใหม่ของโรงเรียนทั่วประเทศ โดยรถโรงเรียนต้องมีลักษณะและอุปกรณ์ถูกต้อง และต้องขออนุญาตอย่างถูกต้อง โดยเฉพาะรถรับส่งนักเรียนที่เป็นรถยนต์ส่วนบุคคลทั้งในลักษณะรถสองแถวและรถตู้ ต้องได้รับอนุญาตจากกรมการขนส่งทางบก หรือสำนักงานขนส่งจังหวัด เช่น ห้ามติดฟิล์มกรองแสงที่กระจกรอบคัน วัสดุภายในรถส่วนของผู้โดยสารต้องไม่มีส่วนแหลมคม ที่นั่งผู้โดยสารต้องยึดแน่นอย่างมั่นคงแข็งแรง และไม่มีพื้นที่สำหรับนัก เรียนยืนในห้องโดยสารเด็ดขาด กรณีเป็นรถสองแถวต้องมีประตูและที่กั้นป้องกันนักเรียนตก ส่วนรถตู้ต้องจัดวางที่นั่งเป็นแถวตอนตามความกว้างของตัวรถเท่านั้น
ทั้งนี้ รถรับส่งนักเรียนทุกคันต้องผ่านการรับรองจากโรงเรียนหรือสถานศึกษา โดยต้องนำรถเข้าตรวจสภาพ ณ สำนักงานขนส่งจังหวัดที่โรงเรียน หรือสถานศึกษาตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ โดยจะได้รับอนุญาตครั้งละ 1 ภาคการศึกษาเท่านั้น นอกจากนี้ ผู้ขับรถรับส่งนักเรียนต้องได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์ส่วนบุคคลไม่น้อยกว่า 3 ปี หรือได้รับใบอนุญาตขับรถยนต์สาธารณะ หรือเป็นผู้ขับรถตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก ซึ่งต้องไม่เคยมีประวัติเสียหายอันเกิดจากการขับรถมาก่อน รวมถึงต้องมีผู้ควบคุมดูแลนักเรียนประจำรถ ซึ่งมีอายุไม่ต่ำกว่า 18 ปี ประจำอยู่ในรถตลอดเวลาที่ใช้รับส่งนักเรียน เพื่อดูแลความปลอดภัยให้นักเรียนตลอดการรับส่งตามมาตรฐานความปลอดภัยของรถโรงเรียนตามกฎระเบียบของกรมการขนส่งทางบก
“นอกจากจะมีมาตรการกำกับควบคุมความปลอดภัยแล้ว ยังดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับรถรับส่งนักเรียนเพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยยิ่งขึ้น โดยจัดโครงการเสริมความรู้สู่ถนนปลอดภัย ใส่ใจบริการ แก่พนักงานขับรถรับส่งนักเรียนเป็นประจำทุกปี ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยปีนี้ ส่วนกลางกำหนดจัดอบรมวันที่ 20 พ.ค.2560 ณ กรมการขนส่งทางบก โดยมีพนักงานขับรถเข้าร่วมประมาณ 100 คน ซึ่งจะเป็นการเสริมความรู้ สร้างความตระหนักถึงบทบาท หน้าที่ความรับผิดชอบ การให้บริการที่ดี และคอยดูแลความปลอดภัยของเด็กนักเรียนอยู่เสมอ ทั้งนี้หากพบว่ามีการฝ่าฝืนจะสั่งเพิกถอนหนังสืออนุญาตให้ใช้รถทันที และไม่สามารถขออนุญาตได้อีกจนกว่าจะพ้น 1 ปีไปแล้ว”.